หลายปีมานี้ผู้คนนิยมที่จะเลี้ยงแคคตัส หรือต้นกระบองเพชรกันมากขึ้น เนื่องจากเลี้ยงง่ายทนทาน อีกทั้งยังมีความน่ารักมากอีกด้วย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักแคคตัสให้มากขึ้น ว่าด้วยเรื่องของถิ่นกำเนิด และ ประเภทของแคคตัส
แคคตัสมาจากไหน
แคคตัส หรือกระบองเพชรนั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ พบมากในพื้นที่แถบทะเลทราย แต่ก็มีบางประเภทที่จะเติบโตอยู่ในป่าเขตร้อนชื้น เป็นไม้ยืนต้นที่มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ มีรูปร่างรูปทรงที่แปลกตา ไม่ใช่แค่แบบมีหนามเท่านั้น ยังมีแคคตัสที่ไม่มีหนามด้วย อีกทั้งยังมีดอกที่มีสีสันแตกต่างออกไปในแต่ละสายพันธุ์ สามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและพืชชนิดอื่นโตได้ยาก หรือแม้กระทั่งในบางช่วงที่ฝนไม่ตกเป็นเวลานาน แคคตัสก็สามารถที่จะปรับสภาพของตัวเองให้สามารถเก็บสะสมน้ำไว้ในลำต้นได้มากถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เองทำให้แคคตัสสั้นมีลำต้นที่อ้วนและสั้น รากนั้นส่วนมากจะอยู่ใกล้กับผิวดิน ไม่ได้ทำการหยั่งลึกลงไปใต้ดินมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ดูดจับน้ำและความชื้นที่อยู่ในอากาศได้ง่าย และการที่มีหนามอยู่รอบตัวเพราะ แคคตัสได้ลดขนาดของใบให้เล็กลงและเปลี่ยนรูปเป็นหนาม เพื่อช่วยพรางความร้อนของแสงอาทิตย์ และลดการสูญเสียน้ำอีกด้วย
ประเภทของแคคตัส
ในปัจจุบันนั้น พืชในกลุ่มแคคตัสมีอยู่ด้วยกันมากกว่า 50-150 สกุล และมีมากกว่า 2,000 ชนิด โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ได้ 8 กลุ่มดังนี้
- กลุ่ม Pereskia เป็นกลุ่มแคคตัสที่มีใบแท้ ไม่มีหนามหรือขนแข็ง ปลายงอ เมล็ดสีดำ และมีเยื่อหุ้มเมล็ด ได้แก่ แคคตัสในสกุล Maihuenia และ Pereskia
- กลุ่ม Cereus เป็นแคคตัสที่ไม่มีใบ เมล็ดมีสีดำหรืออาจเป็นสีน้ำตาล ลำต้นจะเป็นทรงกระบอก มีสันและหนามมากมาย ส่วนบริเวณโคนดอกด้านนอกอาจมีหรือไม่มีหนามปกคลุมก็ได้ ตัวอย่างเช่น แคคตัสในสกุล Machaerocereus , Micranthocereus , Monvillea , Myrtillocactus และ Wilcoxia
- กลุ่ม Opuntia ใบจะมีขนาดเล็ก มีหนามหรือขนแข็ง ที่มีส่วนปลายงอและเนื้อเยื่อหุ้มเมล็ด ตัวอย่างกลุ่มนี้ได้แก่ Opuntia , Pereskiopsis , Pterocactus , Quiabentia และ Tacinga
- กลุ่ม Echinopsis กลุ่มนี้จะมีความคล้ายกับกลุ่ม Cereus แต่ต้นจะมีขนาดเล็กกว่า และผิวด้านนอกของดอกนั้นจะมีลักษณะเป็นหลอด มักจะมีขนหรือเกล็ดสั้น ๆ ปกคลุม ตัวอย่างของกลุ่มนี้เช่น Rebutia , Sulcorebutia , Thrixanthocereus , Weberbauerocereus และ Weingartia
- กลุ่ม Neopoteria จะมีลำต้นขนาดค่อนข้างเล็ก ทรงกลมแป้น หรืออาจเป็นทรงกระบอก ต้นเป็นสันเห็นได้ชัดเจน โคนหลอดดอกมีปุยนุ่มและมีหนาม ตัวอย่างกลุ่มนี้เช่น Neoporteria , Notocactus , Porodia , Uebelmannia และ Wigginsia
- กลุ่ม Melocactus กลุ่มนี้จะมีความคล้ายกับกลุ่ม Neopoteria บริเวณโคนออกดอกจะมีปุย หรืออาจไม่มีก็ได้ แต่จะมีหนามขึ้นปกคลุม ดอกจะเกิดบนเซฟาเลียม ยกเว้นสกุล Buiningia ที่ดอกจะเกิดที่ด้านข้างของเซฟาเลียม แคคตัสกลุ่มกูลนี้ได้แก่ Buiningia , Discocactus และ Melocactus
- กลุ่ม Hylocereus กลุ่มนี้จะมีความคล้ายกับกลุ่ม Cereus เป็นพืชที่เรียกว่า พืชอิงอาศัย มีระบบรากอากาศ ต้นเป็นสัน หนามบอบบาง ตัวอย่างกลุ่มนี้เช่น Schlumbergera , Selenicereus , Weberocereus, Wittia และ Zygocactus
- กลุ่ม Echinocactus กลุ่มนี้ดอกจะเกิดบริเวณตรงกลางด้านบนสุดของต้น และจะไม่มีเซฟาเลียม ตัวอย่างสกุลนี้ได้แก่ Solisis , Strombocactus , Thelocactus , Toumeya และ Utahia
และนี่คือกลุ่ม และประเภทของแคคตัสที่มีอยู่มากมาย อย่างไรก็ตาม ในบ้านเรานั้นหากจะพูดถึงแคคตัสหรือกระบองเพชร เรามักจะเรียกชื่อสกุลเลย โดยไม่ได้อ้างอิงถึงกลุ่มที่กล่าวมา อย่างเช่น Gymnocallicium, Mammillaria, Lophophola, Astorphytum แต่หากเรารู้ไว้ ก็อาจทำให้เราแยกแยะและเข้าใจแคคตัสได้มากขึ้นด้วย
” อ่านบทความมือใหม่หัดปลูกแคคตัสเพิ่มเติมได้ที่นี่ “
” ดูรายละเอียดประเภทของแคคตัสเพิ่มเติมได้ที่นี่ “
เครดิต : ufabet ขั้นต่ํา 1 บาท น้ำเต้าปูปลาออนไลน์